ยินดีต้อนรับผู้เยี่ยมชมทุกท่านเข้าสู่บล๊อก PaTcHaRa

04 กรกฎาคม 2555

แท็บเล็ตเจิดจรัส 5 ปี แซงโน้ตบุ๊ก



              ผลวิจัยล่าสุดพบ ยอดขายแท็บเล็ตอาจแซงหน้าคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กใน 5 ปีข้างหน้า (2017) ระบุปัจจัยเสริมคือความต้องการของผู้บริโภคที่เน้นความคล่องตัวในการพกพาเป็นหลัก
      
       ริชาร์ด ชิม (Richard Shim) นักวิเคราะห์อาวุโสของบริษัทวิจัยเอ็นพีดีดิสเพลย์เสิร์ช (NPD DisplaySearch) กล่าวว่าสินค้ากลุ่มอุปกรณ์โมบายล์คอมพิวติงที่ผู้บริโภคต้องการนั้นกำลังย้ายจากคอมพิวเตอร์วางตักธรรมดาหรือแล็ปท็อปอย่างโน้ตบุ๊ก มาเป็นแท็บเล็ตพีซี แนวโน้มนี้ทำให้แท็บเล็ตมีโอกาสทำยอดจำหน่ายสูงกว่าโน้ตบุ๊กในช่วง 4-5 ปีนับจากนี้
      
       สำนักเอ็นพีดีคาดว่าโน้ตบุ๊กจะมียอดจำหน่ายเพิ่มขึ้นจาก 208 ล้านเครื่องในปีนี้ มาเป็น 393 ล้านเครื่องในปี 2017 แต่แท็บเล็ตจะมียอดจำหน่ายที่เติบโตเร็วกว่า โดยจะเพิ่มจาก 121 ล้านเครื่องในปีนี้ มาเป็น 416 ล้านเครื่องในปี 2017
       
       ข้อมูลจากกราฟพยากรณ์การจัดส่งพีซีพกพาทั่วโลกหรือ Worldwide Mobile PC Shipment Forecast พบว่าตลาดคอมพิวเตอร์พกพารุ่นเล็กราคาประหยัดที่เรียกว่า "มินิ-โน้ต (Mini-Note PC)" นั้นมีส่วนแบ่งตลาดลดลงอย่างเห็นได้ชัด
      
       จุดนี้เอ็นพีดีระบุว่าแท็บเล็ตตระกูลวินโดวส์ 8 (Windows 8) จะเป็นแรงดันสำคัญในการขยายตัวของตลาดแท็บเล็ต ซึ่งแม้ไม่เอ่ยชื่อ แต่สื่อต่างประเทศล้วนเชื่อว่าเอ็นพีดีหมายถึง "เซอร์เฟซ (Surface)" แท็บเล็ตที่ไมโครซอฟท์เป็นผู้พัฒนาขึ้นเองในฐานะแท็บเล็ตรุ่นแรกที่ใช้ระบบปฏิบัติการ จะเป็นพลังสำคัญในการดันตลาดแท็บเล็ตให้ขยายตัวเกินหน้าโน้ตบุ๊ก
      
       สาเหตุเป็นเพราะแท็บเล็ตวินโดวส์ 8 นั้นไม่ได้ใช้ระบบปฏิบัติการฉบับย่อที่ออกแบบมาเพื่ออุปกรณ์พกพา ซึ่งต้องตัดความสามารถบางอย่างเพื่อให้สามารถรักษาแบตเตอรี่ให้ใช้งานได้นาน แต่แท็บเล็ตวินโดวส์ 8 จะใช้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 8 เวอร์ชันเต็มที่คงความสามารถใกล้เคียงคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กมากที่สุด
      
       สิ่งนี้ทำให้ซอฟต์แวร์แอปพลิเคชันสำหรับโน้ตบุ๊ก ที่ไม่สามารถใช้งานบนแท็บเล็ตทั้วไป สามารถใช้งานบนแท็บเล็ตวินโดวส์ 8 ได้ ความสามารถนี้เมื่อรวมกับเคสหรือหน้ากากแท็บเล็ตที่สามารถแนบคีย์บอร์ดลงไป จะทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องเปลืองแรงถือหิ้วคอมพิวเตอร์วางตักหลายกิโลกรัมอีกต่อไป
      
       นอกจากความคล่องตัวในการพกพา เหตุที่จะทำให้แท็บเล็ตประสบความสำเร็จแซงหน้าโน้ตบุ๊กคือพัฒนาการของแบตเตอรี่ จุดนี้เอ็นพีดีวิเคราะห์ว่าการที่แท็บเล็ตมีอายุการใช้งานแบตเตอรี่นานกว่าโน้ตบุ๊กในขณะนี้ ทำให้ผู้ใช้ฝักใฝ่แท็บเล็ตมากกว่า
      
       เอ็นพีดีสะท้อนว่าผู้บริโภคกำลังให้ความสำคัญกับพลังการประมวลผลในอุปกรณ์น้อยลง ซึ่งแม้จะมีผู้ที่ต้องการคอมพิวเตอร์พลังแรงในการทำงานอยู่บ้าง แต่ก็เป็นส่วนน้อยที่พบว่าแท็บเล็ตไม่เพียงพอต่อการใช้งาน จุดนี้เอ็นพีดีเชื่อว่าผู้บริโภคที่ต้องการใช้แท็บเล็ตพลังแรงกว่านี้จะไม่ต้องรอนาน เพราะในอนาคต แท็บเล็ตคุณภาพสูงที่มาพร้อมหน่วยประมวลผลหลายแกน ( multi-core processor) จะวางตลาดบนระบบปฏิบัติการที่ดีกว่า บนแอปพลิเคชันที่มีจำนวนมากขึ้น และหน้าจอที่มีความละเอียดมากขึ้น
      
       อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจนี้สวนทางกับสำนักข่าวดิจิไทมส์ (DigiTimes) ที่รายงานก่อนหน้านี้ว่าแท็บเล็ตอาจมีผลกระทบต่อตลาดโน้ตบุ๊กน้อยลง เนื่องจากแท็บเล็ตจะมีบทบาทเน้นด้านความบันเทิงมากกว่าการทำงานและการเรียนการสอน และมีโอกาสสร้างความต้องการใหม่มากกว่าการลดความต้องการโน้ตบุ๊กลง
      
       จุดนี้มีการวิเคราะห์ว่า ผู้บริโภคอาจเลื่อนการซื้อโน้ตบุ๊กออกไปแล้วนำเงินส่วนนั้นไปซื้อแท็บเล็ต แต่ความต้องการโน้ตบุ๊กจะเพิ่มขึ้นเมื่ออินเทลเปิดตัวหน่วยประมวลผลตระกูล Ivy Bridge พร้อมกับที่ไมโครซอฟท์จะเปิดตัววินโดวส์ 8 ในปีนี้ จุดนี้ทำให้ตลาดโน้ตบุ๊กครึ่งปีหลังมีแนวโน้มในทางบวก
      
       สำหรับปีนี้ บริษัทวิจัยเอบีไอรีเสิร์ช (ABI Research) มองว่าแท็บเล็ตวินโดวส์จะมีผลต่อตลาดแท็บเล็ตเพียงเล็กน้อย โดยจะมียอดจัดส่งราว 1.3% (ของตลาดแท็บเล็ต) เท่านั้น สาเหตุเพราะวินโดวส์ 7 เป็นระบบปฏิบัติการที่ไม่ถูกยอมรับในวงการแท็บเล็ต เชื่อว่าสถานการณ์จะดีขึ้นเมื่อวินโดวส์ 8 ออกสู่ตลาดช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้

วิธีการเลือกซื้อกระต่าย


       สวัสดีครับ เรามาดูวิธีการเลือกซื้อกระต่ายกันหน่อย นะครับ ทั้งนี้ก็เพื่อ ที่เวลาเพื่อนๆไปซื้อ จะได้ไม่ถูก คนขายหลอกขายได้ครับเมื่อตัดสินใจเลือกซื้อกระต่ายมาเลี้ยงแล้ว เราควรจะซื้อกระต่ายที่สมบูรณ์แข็งแรง นะครับ โดย จะต้องสังเกตหลายอย่างอยู่เหมือนกันครับ คือ
rabbit001
ดวงตาของกระต่าย

กระต่ายที่ดี ควรมีดวงตาที่สดใส ไม่ขุ่นมัว หรือ เป็นฝ้า เหมือนเป็นต้อ ครับ บริเวณรอบดวงตาไม่ มีรอยแดง หรือว่า เป็นแผล
ดวงตาไม่บวม

ขน ของกระต่าย

” ขน ” ของกระต่ายนั้นจะต้อง สะอาดไม่ร่วงเยอะผิดปกติครับ และ ขนไม่พันกันยุ่ง ไม่จับติดเป็นก้อนๆ 

อายุที่เราควรซื้อ

       เรื่องนี้เป็นเรื่องค่อนข้างสำคัญครับ เพราะว่า ช่วงนี้ผมเห็นว่า ร้านขายกระต่ายบางร้าน นำกระต่ายที่ ยังไม่หย่านมมาขายครับ ก็คือเมื่อกระต่ายเริ่มทานอาหารได้ บ้างเขาก็ จับมาขายเรา เลยครับ ซึ่ง อัตราการลอด ของกระต่ายจะมีน้อย กว่า กระต่ายที่หย่านมแล้ว ครับโดย ขนาดตัวของกระต่ายที่ยังไม่หย่านมนั้น จะเล็กกว่ากระต่ายที่หย่านมแล้ว ครับ ซึ่ง เมื่อถามคนขายว่าทำไมตัวเขาจึงเล็ก คนขายมักจะตอบว่าเป็นพันธุ์แคระ ครับ ดังนั้น เราควรเลือกซื้อกระต่าย จากร้าน หรือ คนที่ น่าเชื่อถือ ครับ

เล็บเท้า ของกระต่าย
        ควรสังเกตว่า กระต่ายที่เราจะซื้อนั้นมีนิ้วเท้าที่ครบ ทุกนิ้วครับ โดย ขาหน้าของกระต่ายนั้นจะมีนิ้วเท้าอยู่ 5 นิ้วครับและ เท้าหลัง ของกระต่ายนั้นจะมีนิ้วอยู่ 4 นิ้ว ครับ โดยกระต่ายนั้นจะมีนิ้ว ทั้งหมด 18 นิ้วเท่านั้นครับ
ตรวจดูตามซอกเล็บ หรือ ตามซอกขา ต้องไม่มีรอย แผล หรือว่า ตกสะเก็ต เพราะว่า อาการเหล่านั้น คืออาการของโรคเชื้อรา ซึ่ง ผู้ขายตามร้านมักจะเลี้ยงกระต่ายรวมกันซึ่งทำให้กระต่ายสามารถติดเชื้อได้ง่าย ยิ่งถ้ามีกระต่ายตัวใดตัวหนึ่ง เป็นโรค
จมูกของกระต่าย จมูกจะต้องไม่แฉะ เพราะว่า ถ้ากระต่ายจมูกแฉะ นั่นคืออาการของโรคหวัด ครับและ จมูกก็ต้องไม่แห้ง อีกด้วยครับ สุดท้ายนี้เราควรเลือกซื้อกระต่ายจากแหล่ง ที่น่าเชื่อถือได้จะดีที่สุดครับ เช่นซื้อจากฟาร์ม ต่างๆ ครับ และส่วนเรื่องสีและสายพันธุ์ของกระต่ายเพื่อนๆควรเลือกตัวที่ชอบมากกว่าครับ เพราะนั้นจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คุณรักเขา และ อยากอยู่กับเขา และเลี้ยงเขาอย่างเต็มใจครับ

อายุของกระต่ายที่พร้อมแก่การผสมพันธุ์


กระต่ายจะเริ่มมีการผสมพันธุ์ตั้งแต่อายุ ?

       กระต่ายเพศเมีย จะเริ่ม ยอมรับการผสมพันธุ์ ตั่งแต่อายุประมาณ 3 เดือนครึ่ง ซึ่งทั้งนี้ % ของการผสมติด จะมีน้อยกว่า กระต่ายที่มีอายุประมาร 4 เดือน – 4 เดือนครึ่ง แต่ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ของกระต่ายด้วยครับ เพราะ กระต่ายสายพันธุ์ ธรรมดา กับกระต่ายสายพันธุ์แคระจะมีการเจริญเติบโตเต็มวัยไม่พร้อมกันซึ่ง ทางที่ดีเราควรให้กระต่ายของเรานั้น เริ่มการผสมพันธุ์ ตั่งแต่อายุประมาร 6-8 เดือนขึ้นไปครับ
rabbit2

       ซึ่งกระต่ายที่ ได้รับการผสมในช่วง 3-4 เดือนแรก จะมี% การผสมติดจน้อยครับ และ ถ้าเกิดการผสมติด ลูกกระต่ายที่คลอดออกมานั้น อาจจะไม่แข็งแรง หรือ แม่กระต่ายนั้น อาจจะมีน้ำนมไม่เพียงพอกับลูกกระต่าย และ อาจจะทำให้ลูกกระต่ายที่เกิดมานั้น ตายได้ครับ ซึ่ง ลูกกระต่ายที่เกิดจากแม่กระต่ายในช่วงอายุดังกล่าว มี % การตาย สูงครับ การที่แม่กระต่ายท้อง ก่อน หรือ มีลูก ในช่วงผสมติด 3 – 4 เดือนแรก เมื่อแม่กระต่าย คลอดอกมา อาจจะทำให้การเจริญเติบโตของ กระต่ายนั้น หยุด หรือ ช้าลงไป ดังนั้นจึงอาจจะทำให้กระต่ายนั้น โตไม่ได้เต็มที่คับ